ทุกวันนี้มีข่าวมากมายที่สะท้อนถึงความสำคัญของการเข้าถึงข้อมูลและการตรวจสอบได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างโครงการขนาดใหญ่ที่ถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใส หรือแม้แต่ข่าวการร้องเรียนการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ ซึ่งล้วนแล้วแต่ชี้ให้เห็นว่า หากข้อมูลสำคัญเหล่านี้ถูกปิดบังหรือเข้าถึงได้ยาก ประชาชนอย่างเรา ๆ ก็จะตกอยู่ในภาวะที่ “มืดบอด” ไม่สามารถตรวจสอบการทำงานของภาครัฐได้อย่างเต็มที่ และนั่นคือช่องว่างสำคัญที่นำไปสู่ปัญหา “การทุจริตคอร์รัปชัน” ที่กัดกินประเทศชาติของเรามาอย่างยาวนาน
ยกตัวอย่างง่าย ๆ จากข่าวในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เรามักจะเห็นข่าวที่ประชาชนตั้งคำถามถึงความไม่ชอบมาพากลในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งก็มีกรณีที่หน่วยงานรัฐถูกร้องเรียนเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่โปร่งใส สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลมาจากการที่ประชาชนขาดข้อมูลที่ครบถ้วนและเข้าถึงได้ง่ายเพื่อนำมาตรวจสอบ เช่น ข้อมูลคู่สัญญาของรัฐ รายละเอียดโครงการ หรือแม้กระทั่งข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณอย่างละเอียด
“หลักนิติธรรม” เกี่ยวข้องอะไรกับ “การเปิดเผยข้อมูล”?
“หลักนิติธรรม” มีนิยามง่าย ๆ ว่าเป็นการที่ทุกคน รวมถึงผู้มีอำนาจ ยอมรับและยินดีที่จะอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน เพื่อให้ทุกคนรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง โดยกฎหมายนั้นจะต้องเป็นกฎหมายที่เป็นธรรม มีความโปร่งใส เข้าถึงได้ สามารถตรวจสอบได้ และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ดังนั้น หลักนิติธรรม คือเสาหลักที่สร้างความมั่นคงและความยุติธรรมในสังคม ลองนึกภาพดูว่า ถ้าไม่มีกฎกติกาที่ชัดเจน ทุกคนทำอะไรตามอำเภอใจ ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร? หลักนิติธรรมคือสิ่งที่ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างโปร่งใส มีมาตรฐาน และที่สำคัญคือ “ลดโอกาสในการทุจริตคอร์รัปชัน”
ในโลกยุคดิจิทัล การเข้าถึง “ข้อมูลเปิด” (Open Data) จึงกลายเป็นเครื่องมือทรงพลังในการผลักดันหลักนิติธรรมให้เป็นจริง เพราะเมื่อข้อมูลถูกเปิดเผยและเข้าถึงได้ง่าย มันก็เหมือนกับการเปิดไฟส่องสว่างไปยังทุกซอกทุกมุม ทำให้สิ่งไม่ชอบมาพากลถูกเปิดโปง และผู้กระทำผิดไม่สามารถหลบซ่อนได้อีกต่อไป
เปิด 25 ข้อมูลสำคัญ: กุญแจสู่ความโปร่งใสและประชาธิปไตยที่แท้จริง
"ประชาชนเองสามารถทำหน้าที่เป็นนักสืบในการติดตามตรวจสอบได้ หากสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ" ณัฐภัทร เนียวกุล หัวหน้าฝ่ายข้อมูลเปิดเพื่อความโปร่งใสและการมีส่วนร่วม บริษัท แฮนด์ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด
เพื่อให้ประเทศไทยมีหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งและเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง การมี “25 ชุดข้อมูลเปิด” ที่ได้รับการปรับปรุงให้สอดคล้องกับบริบทของไทย และถูกออกแบบมาเพื่อต่อต้านการทุจริตโดยเฉพาะ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ชุดข้อมูลเหล่านี้แบ่งออกเป็น 4 หมวดหมู่หลัก ได้แก่:
- ข้อมูลบุคคลและองค์กร คือ ชุดข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลหรือนิติบุคคลที่อาจมีส่วนร่วมในกระบวนการคอร์รัปชันได้ 8 ชุดข้อมูล ได้แก่ ข้อมูลผู้วิ่งเต้น ข้อมูลนิติบุคคล ข้อมูลบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง ข้อมูลผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง ข้อมูลคู่สัญญาของรัฐ ข้อมูลเจ้าหน้ารัฐ ข้อมูลผู้บริหารและคณะกรรมการต่าง ๆ และข้อมูลมูลนิธิหรือองค์กรอื่น ๆ ที่จดทะเบียน
- ข้อมูลทรัพยากรสาธารณะ ชุดข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยากรต่าง ๆ ทั้งที่เป็นของรัฐหรือของสาธารณะที่อาจปรากฏอยู่ในกระบวนการคอร์รัปชัน 8 ชุดข้อมูล ได้แก่ ข้อมูลงบประมาณภาครัฐ ข้อมูลการใช้จ่ายภาครัฐ ข้อมูลโครงการจัดซื้อจัดจ้าง ข้อมูลการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน ข้อมูลทางการเงินของพรรคการเมือง ข้อมูลการออกใบอนุญาตต่าง ๆ ข้อมูลการสนับสนุนทางด้านการเงินของรัฐบาล และข้อมูลการบริจาคเงินจาคจากต่างประเทศในรูปแบบของเงิน เทคโนโลยี หรือการช่วยเหลือ
- ข้อมูลกฎหมายและกฎระเบียบ ชุดข้อมูลที่เกี่ยวกับช่องทางหรือการใช้อำนาจตามกฎหมายที่อาจก่อให้เกิดการคอร์รัปชันได้ 6 ชุดข้อมูล ได้แก่ ข้อมูลการลงคะแนนเสียงของสมาชิกรัฐสภา ข้อมูลการประชุมของฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อมูลคำพิพากษาศาล ข้อมูลนโยบายหาเสียง และข้อมูลของหน่วยงานตรวจสอบ
- ข้อมูลทรัพย์สินและผลประโยชน์ ชุดข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงทรัพย์สินและผลประโยชน์ซึ่งอาจได้มาหรือมีแหล่งที่มาจากกระบวนการคอร์รัปชัน 3 ชุดข้อมูล ได้แก่ ข้อมูลบัญชีทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้อมูลการครอบครองที่ดิน ข้อมูลการชำระภาษีและด้านศุลกากร
การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้อย่างครบถ้วนในรูปแบบที่ “เครื่องอ่านได้” (machine-readable) จะช่วยให้ประชาชน ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ เชื่อมโยง และตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการสร้างกลไกการถ่วงดุลอำนาจที่สำคัญในระบอบประชาธิปไตย
ยกตัวอย่างเช่น นิติบุคคลที่เคยมีนักการเมืองเป็นกรรมการ ต่อมาได้รับงานจากกระทรวงที่นักการเมืองผู้นั้นเป็นรัฐมนตรี และต่อมาบริษัทเดียวกันนี้ก็บริจาคเงินให้พรรคการเมืองของรัฐมนตรีดังกล่าว นี่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่ควรได้รับการตรวจสอบ ซึ่งปัจจุบัน “ACTAi” สามารถเชื่อมโยงชุดข้อมูลได้ 12 ชุดข้อมูล ที่สอดรับกับ 25 ชุดข้อมูลใน 4 หมวดดังกล่าว และเป็นการเปิดเผยข้อมูลในรูปแบบที่เชื่อมโยงไปสู่แหล่งข้อมูลอื่น ๆ ในบริบทที่เกี่ยวข้องกันได้ เช่น แพลตฟอร์ม “Parliament Watch” และแพลตฟอร์ม“Bangkok Budgeting” ของ WeVis
ความท้าทายก่อนเปิด “ข้อมูล” เพื่อประชาชน
การเปิดเผยข้อมูลของรัฐในปัจจุบันยังคงเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ เพราะหลายข้อมูลไม่สามารถนำไปใช้ต่อหรือนำไปวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพได้ เนื่องจากอยู่ในรูปแบบที่เครื่องมืออ่านไม่ได้ อย่างลายมือ หรือการแสกนไฟล์เป็น PDF อันเป็นระดับที่ 1 ของการเปิดเผยข้อมูล 5 ระดับ
ทั้งยังพบด้วยว่าประเทศขาดแคลนระบบนิเวศทั้งด้านกฎหมายนโยบาย เครื่องมือ งบประมาณ และบุคลากรในการจัดการข้อมูลภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเจ้าหน้าที่รัฐไม่กล้าเปิดเผยข้อมูล และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Act – PDPA)
เมื่อข้อมูลมืดบอด...ผลกระทบที่ร้ายแรงเกินคาด
หากรัฐบาลไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลกระทบที่ตามมาจะรุนแรงและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
- ขัดขวางการมีส่วนร่วมและการตรวจสอบของพลเมือง เมื่อไม่มีข้อมูล ประชาชนก็ไม่สามารถติดตาม ตรวจสอบ และให้ข้อเสนอแนะแก่รัฐบาลได้อย่างมีข้อมูล ทำให้บทบาทการเป็น "ผู้เฝ้าระวัง" ของภาคประชาสังคมและสื่อมวลชนอ่อนแอลง
- ลดความรับผิดชอบและความโปร่งใสของรัฐบาล การขาดข้อมูลที่เข้าถึงได้กัดกร่อนความไว้วางใจของสาธารณะในรัฐบาล เพราะประชาชนจะรู้สึกว่ารัฐบาลเป็นความลับและห่างเหิน
- เพิ่มความเสี่ยงและประเภทของการทุจริต เมื่อข้อมูลยังคงไม่สามารถเข้าถึงได้ ความกลัวที่จะถูกจับได้ในหมู่เจ้าหน้าที่ทุจริตก็จะลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่การประพฤติมิชอบที่แพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะการทุจริตที่ซับซ้อนขึ้น
- กรอบกฎหมายและนโยบายที่ไม่มีประสิทธิภาพ แม้จะมีกฎหมายที่ส่งเสริมความโปร่งใส แต่การตีความผิดพลาดหรือการใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเกินความจำเป็น มักถูกใช้เป็นข้ออ้างในการปกปิดข้อมูล
- ขัดขวางนวัตกรรมและการพัฒนาเศรษฐกิจ ข้อมูลเปิดคือขุมทรัพย์ทางเศรษฐกิจ แต่หากเข้าถึงไม่ได้ ศักยภาพในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการพัฒนาเศรษฐกิจก็จะถูกจำกัดลง
สร้างประเทศไทยที่ “โปร่งใส ตรวจสอบได้”
การเปิดเผย 25 ชุดข้อมูลนี้อย่างเต็มรูปแบบในรูปแบบที่ เครื่องอ่านได้ และ สามารถเชื่อมโยงกันได้ จะเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างหลักนิติธรรมในประเทศไทยอย่างแท้จริง ซึ่งจะนำมาซึ่งประโยชน์มหาศาล
- เพิ่มความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ประชาชนจะกลายเป็นหูเป็นตาที่แข็งแกร่งในการตรวจสอบภาครัฐ ลดช่องว่างในการทุจริต
- ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานได้มีประสิทธิภาพ และประชาชนก็สามารถแจ้งเบาะแสได้ง่ายขึ้น
- ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน เมื่อประชาชนมีข้อมูล พวกเขาก็จะสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศได้อย่างมีเหตุผล
- เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการ รัฐจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและรับผิดชอบมากขึ้น
- สร้างความเชื่อมั่นจากนานาชาติ ประเทศไทยจะมีความน่าเชื่อถือในสายตานักลงทุนและประชาคมโลก
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยข้อมูลเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ รัฐบาลจำเป็นต้องมีกลไกที่สนับสนุนการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และการสร้างความตระหนักรู้ให้กับทุกภาคส่วนถึงความสำคัญของข้อมูลเปิดในการเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนหลักนิติธรรม นี่คือการลงทุนเพื่ออนาคตของชาติ ที่จะนำพาประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่มีหลักนิติธรรมเข้มแข็งและปราศจากการทุจริตได้อย่างยั่งยืน
ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนต้องร่วมกันผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างเป็นรูปธรรม แล้วคุณคิดว่าประเทศไทยควรเร่งดำเนินการในส่วนใดก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม?
อ้างอิง
เนียวกุล, ณัฐภัทร, "เศรษฐศาสตร์การเมืองว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ" (2024). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 11338.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/11338. (เข้าถึงเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568).
“เปิดข้อมูลภาครัฐ ปลดล็อคอำนาจประชาชน” และเปิดนิทรรศการ “กลางวันแสกๆ” (In Broad Daylight). เวทีเสวนา “เปิดข้อมูลภาครัฐ ปลดล็อคอำนาจประชาชน” จัดขึ้นวันที่ 28 มีนาคม 2567. https://www.tijthailand.org/highlight/detail/detail/in-broad-daylight-seminar. (เข้าถึงเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568).
วาระแห่งชาติ… ขับเคลื่อนหลักนิติธรรมนำไทย. เวทีสาธารณะด้านหลักนิติธรรม “Rule of Law Forum: Investing in the Rule of Law for a Better Future” ที่จัดขึ้นโดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) ร่วมกับ Word Justice Project (WJP) และสำนักข่าว THE STANDARD เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566. https://www.tijthailand.org/highlight/detail/detail/rule-of-law-forum-2024. (เข้าถึงเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568).
Open Data และ AI ตรวจสอบรัฐ-สร้างหลักนิติธรรม. https://www.facebook.com/share/p/19Y9JV8NEP/. (เข้าถึงเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568).
เปิดเผยข้อมูลภาครัฐ ความพยายามต่อต้านคอร์รัปชันในไทย. https://www.facebook.com/share/p/163GYorALg/ (เข้าถึงเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568).