เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2556 รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงภาพรวมสถิติคดีอาชญากรรม ในระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2555 – 31 กรกฎาคม 2556 และพบว่าในสถิติคดีอาชญากรรมทั้ง 5 กลุ่ม คดีที่มีสถิติเพิ่มมากที่สุด คือ คดีวิ่งราวทรัพย์ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 25
ตารางแสดงสถิติอาชญากรรม 5 กลุ่ม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 – 31 กรกฎาคม 2556
จากตารางแสดงสถิติอาชญากรรม 5 กลุ่ม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 – 31 กรกฎาคม 2556 พบว่า ประเภทคดีที่ตำรวจได้รับแจ้งความมากที่สุดคือ คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์สิน รองลงมาคือ คดีโจรกรรมรถและ คดีลักทรัพย์ ประทุษร้ายต่อชีวิตร่างกายและเพศ คดีอุกฉกรรจ์ และอันดับสุดท้ายคือคดีที่รัฐเป็นผู้เสียหาย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าคดีอาญากลุ่ม 2 คือ คดีประทุษร้ายต่อชีวิตร่างกายและเพศ มีอัตราลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับสถิติอาชญากรรมย้อนหลัง 3 ปี ด้านสถิติการป้องกันอาชญากรรมพบว่าคดีอาญากลุ่ม 1 มีอัตรา
การรับแจ้งลดลงร้อยละ 2.84 กลุ่ม 2 มีอัตราการรับแจ้งลดลงร้อยละ 4.24 โดยในกลุ่ม 2 คดีที่ได้รับแจ้งมากที่สุด คือ คดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอัตราร้อยละ 12 และในกลุ่ม 3 มีคดีรับแจ้งเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.63 ประเภทคดีที่ทำให้สถิติ ในกลุ่ม 3 เพิ่มขึ้น คือ คดีวิ่งราวทรัพย์ที่มีอัตราเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25 ซึ่งถือว่ามีอัตราเพิ่มขึ้นกว่าปกติ
การที่หน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รวบรวมและจัดทำสถิติอาชญากรรมมีความสำคัญต่อการศึกษาภาพรวมของการเกิดอาชญากรรม ซึ่งต้องอาศัยข้อมูลอาชญากรรมของประเทศที่มีความสมบูรณ์ ครบถ้วน และชัดเจน รวมทั้งสะท้อนสภาพปัญหาและสถานการณ์การเกิดอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในสังคม ณ ห้วงเวลานั้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์และกำหนดนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
สถิติอาชญากรรมเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงสภาพปัญหาอาชญากรรมและภาวะของเศรษฐกิจในขณะนั้นได้เราจึงพบว่าสถิติอาชญากรรมในกลุ่มคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นนั้นมีความสัมพันธ์กับสภาวะเศรษฐกิจ ที่ถดถอยจึงทำให้เกิดอาชญากรรมประเภทวิ่งราวทรัพย์ ลักทรัพย์ ชิงทรัพย์และปล้นทรัพย์เพิ่มขึ้น
แหล่งข้อมูล : http://www.matichon.co.th/
ภาพประกอบจาก : http://www.frontrangelegalservices.com