TIJ ร่วมกลุ่มเพื่อนไม่ทน ของ กกร. ในการขับเคลื่อนคณะทำงาน Zero Corruption ยกระดับหลักนิติธรรม ผลักดันไทยเข้า OECD
สถานการณ์คอร์รัปชันประเทศไทยในภาพรวมแย่ลง โดยดัชนีรวมปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 36 จาก 37 และดัชนีย่อยด้านปัญหาและความรุนแรง การป้องกัน และการปรับตัว ลดลงทั้งหมด นั่นคือผลสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย (Thai CSI) ประจำเดือนมิถุนายน 2568 จัดทำโดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างได้แก่ ประชาชน ผู้ประกอบการหรือเอกชน และข้าราชการและภาครัฐ จำนวน 2,400 ตัวอย่าง
อย่างไรก็ดียังพบสัญญาณเชิงบวกที่สะท้อนว่าสังคมไทยจะไม่ยอมรับและไม่ทนต่อปัญหานี้ คือ ค่าเฉลี่ยความสามารถที่จะทานทนต่อการทุจริต (Tolerance of Corruption) ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.92 (ในระดับ 0-10 โดย 0 หมายถึงเกลียดการทุจริตที่สุด)
รองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และคณะทำงาน Zero Corruption: กกร. และเพื่อนไม่ทน กล่าวถึงผลสำรวจดังกล่าวว่า สะท้อนถึงวิกฤตความเชื่อมั่นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการที่ดัชนีย่อยทั้งด้านการป้องกัน การปราบปราม และความรุนแรงของปัญหาแย่ลงพร้อมกันหมด สิ่งที่น่ากังวลคือความเชื่อมั่นต่อองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ปราบปรามทุจริตในระดับต่ำมาก ในทางกลับกันความเชื่อมั่นต่อพลังของภาคประชาชนและสื่อมวลชนกลับเพิ่มสูงขึ้น ภาครัฐจึงต้องเร่งพิสูจน์ตัวเองโดยการ 'บังคับใช้กฎหมาย' อย่างจริงจัง และสร้าง 'กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส' เพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นกลับคืนมาโดยด่วน
ผลสำรวจดังกล่าวได้รับการเปิดเผยในการแถลงข่าวการดำเนินงานและแผนขับเคลื่อน “คณะทำงาน Zero Corruption: กกร. และเพื่อนไม่ทน” รวมพลังเครือข่ายร่วมกับเอกชนต่อต้านคอร์รัปชัน สร้างประเทศไทยโปร่งใสแข่งขันได้ พร้อมปลูกจิตสำนึกอย่างยั่งยืน จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมี ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเป็นประธานในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ร่วมด้วย เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย รองศาสตราจารย์ ดร.เสาวนีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ที่ปรึกษาประจำสภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและคณะทำงาน Zero Corruption: กกร. และเพื่อนไม่ทน ดร.มานะ นิมิตมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน และรองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และคณะทำงาน Zero Corruption: กกร. และเพื่อนไม่ทน ร่วมแถลงจุดยืน พร้อมการสนับสนุนจากภาคีเครือข่าย
คณะทำงาน “Zero Corruption: กกร. และเพื่อนไม่ทน” แถลงจุดยืนภาคเอกชนต้านคอร์รัปชัน

ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ของการแต่งตั้ง “คณะทำงาน Zero Corruption: กกร. และเพื่อนไม่ทน” เผยว่าคณะทำงานดังกล่าวแต่งตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมข้อเสนอจากภาคธุรกิจและภาคประชาสังคม พร้อมจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่จะนำเสนอต่อรัฐบาลอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มาตรการเหล่านี้ถูกนำไปปฏิบัติได้จริง และสามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงสร้างระบบเศรษฐกิจและการเมืองไทยที่โปร่งใส เป็นธรรม และเพื่อให้การขับเคลื่อนงานของคณะทำงานฯ มีความเข้มแข็งสามารถยกระดับการทำงานให้ครอบคลุม
คณะทำงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนแนวคิด Reinvent Thailand โดยนอกจากความร่วมมือ 3 หน่วยงานแล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายสำคัญ ได้แก่ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันแห่งประเทศไทย (ACT) แนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) และสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) รวมทั้งหน่วยงานทางวิชาการ เช่น มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย และขยายสู่หน่วยงานด้านป้องกันและปราบปราม และเครือข่ายสนับสนุนจากภาคเอกชนด้วย
สำหรับกรอบการทำงานของคณะทำงานฯ เพื่อต่อต้านการทุจริต รองศาสตราจารย์ ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ที่ปรึกษาประจำสภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และคณะทำงาน Zero Corruption: กกร. และเพื่อน ไม่ทน ร่วมกับ ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เปิดเผยว่าจะเน้นการดำเนินงาน 6 ด้าน ได้แก่ 1. การปลูกฝังจิตสำนึกให้คนไทยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน 2. นโยบายต่อต้านการทุจริตในองค์กร 3. ระบบบริหารความเสี่ยง 4. การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐในรูปแบบดิจิทัลให้เข้าถึงได้ ตรวจสอบได้ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายสอดคล้องกับแนวทางของ OECD และ OGP 5. เทคโนโลยีเพื่อความโปร่งใส ด้วยเทคโนโลยี Big Data และ AI เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมผิดปกติและเชื่อมโยงฐานข้อมูล และ 6. แนวทางการร้องเรียนและคุ้มครองผู้เปิดเผยข้อมูล
TIJ ร่วมต้านคอร์รัปชัน-สร้างวัฒนธรรมเคารพกติกา
ด้าน ดร.อณูวรรณ วงศ์พิเชษฐ์ รองผู้อำนวยการ TIJ ร่วมกล่าวในที่ประชุมว่า TIJ เป็นพันธมิตรในการเชื่อมโยงองค์ความรู้กับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development – OECD) และ The World Justice Project (WJP) หน่วยงานจัดทำดัชนีชี้วัดหลักนิติธรรมทั่วโลก ซึ่งเป็นประเด็นที่ TIJ กำลังขับเคลื่อนในเวทีระหว่างประเทศ รวมทั้งมีความสอดคล้องและส่งเสริมกับงานที่ กกร. ทำอยู่ โดยเฉพาะการจัดทำ National Rule of Law Blueprint การต่อต้านคอร์รัปชัน และการเปิดเผยข้อมูลหรือทำให้รัฐบาลโปร่งใส เป็นสองปัจจัยสำคัญภายใต้เรื่องของหลักนิติธรรมของประเทศ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ TIJ จะมีส่วนสนับสนุนการทำงานของ กกร. ที่ไม่เพียงแต่เป็นแคมเปญเท่านั้น หากแต่เป็นการปลูกฝังจิตสำนึกทั้งภาคเอกชนและภาคพลเมือง เพื่อทำให้เกิดวัฒนธรรมการเคารพกติการ่วมกันด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา TIJ ได้ร่วมกับ กกร. ในการขับเคลื่อนการต่อต้านคอร์รัปชันอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด กกร. ได้ร่วมเวทีเสวนา หัวข้อ "ความพร้อมของกลไกเชิงสถาบันกับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ" ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนถึงความท้าทายเชิงปฏิบัติการและประเมินศักยภาพในการปฏิรูปโครงสร้างเชิงสถาบันของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมศักยภาพประเทศไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก และสนับสนุนประเทศไทยในการเข้าเป็นสมาชิกของ OECD ระหว่างการจัดเวทีสาธารณะด้านหลักนิติธรรม (The Rule of Law Forum) ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2568