“คนที่ก้าวพ้นจากเรือนจำออกมาก็จะเป็นประชากรที่มีบทบาทในสังคมต่อไป หากออกจากเรือนจำมาแล้วไปต่อได้สามารถทำงานและดูแลครอบครัวได้ ก็เท่ากับเราได้ลงทุนพัฒนาคนที่มีศักยภาพสูงมาก ภารกิจของทุกท่านจึงสำคัญมาก ๆ...หลักสูตรนี้เป็นความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนทั้งความรู้และประสบการณ์จากทุกท่าน ว่าอะไรที่เป็นมาตรฐานระหว่างประเทศและอะไรที่เราสามารถร่วมกันเรียนรู้และนำไปสู่การพัฒนาต่อไปได้ และเราจะใช้องค์ความรู้ที่ได้เรียนรู้ร่วมกันนี้มาพัฒนากระบวนการยุติธรรม นำไปสู่การสร้างสังคมไทยให้ปลอดภัย และได้รับการยอมรับจากนานาชาติ” ดร.พิเศษ สอาดเย็น ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) กล่าวในพิธีเปิดหลักสูตรฝึกอบรมว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามมาตรฐานสหประชาชาติสำหรับผู้บริหารงานราชทัณฑ์ รุ่นที่ 3 วันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2568
หลักสูตรฝึกอบรมว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามมาตรฐานสหประชาชาติสำหรับผู้บริหารงานราชทัณฑ์เป็นหลักสูตรที่พัฒนาขึ้นจากความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง TIJ กับกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้บริหารงานราชทัณฑ์ในประเทศไทย ในการนำมาตรฐานสหประชาชาติที่เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังและสิทธิมนุษยชน เช่นข้อกำหนดแมนเดลา และข้อกำหนดกรุงเทพ มาปรับใช้เพื่อกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการเรือนจำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้ยังได้จัดขึ้นในธีมของการยอมรับความหลากหลายทางเพศ เพื่อสอดรับกับการบังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม หรือ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 ซึ่งผู้ร่วมอบรมจะได้แลกเปลี่ยนและพิจารณาถึงมุมมองที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับมิติดังกล่าวด้วย
ด้าน มานุช สร้อยเพชร ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ กล่าวในพิธีเปิดหลักสูตรฯ ว่า ปัญหากรมราชทัณฑ์ไม่ได้มีเพียงปัญหาเฉพาะในเรือนจำ แต่มีความเชื่อมโยงหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมไทยในภาพรวมในมิติอื่น อย่างการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และมาตรฐานในการบริหารจัดการเรือนจำ เช่น กระบวนการตรวจเยี่ยมเรือนจำที่ได้มาตรฐานสากล การมีแนวปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่เคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของสิทธิมนุษยชน โดยระบุด้วยว่าปัญหาเช่นนี้ไม่อาจแก้ไขได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ก็ต้องพยายามแก้ไข เพื่อให้ประสบความสำเร็จในอนาคต และในโอกาสความร่วมมือทางวิชาการเช่นนี้จะช่วยพัฒนาและเสริมสมรรถภาพบุคลากรกรมราชทัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพและยกระดับสู่มาตรฐานสากลต่อไป
ตลอดระยะเวลาการอบรมระหว่างวันที่ 27-31 มกราคม พ.ศ. 2568 ผู้เข้ารับอบรมที่ได้รับคัดเลือกจากทัณฑสถานทั่วประเทศ จำนวน 35 คน จะได้ร่วมรับฟังบรรยาย การจัดทำแผนปฏิบัติงาน และการศึกษาดูงานที่คลินิกสุขภาพชุมชนแทนเจอรีน (Tangerine Clinic) คลินิกเอกชนเพื่อผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยครอบคลุมประเด็น ได้แก่ การบริหารจัดการเรือนจำแบบมืออาชีพ มาตรฐานสหประชาชาติและหลักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง แนวโน้มสถานการณ์เรือนจำทั่วโลก สุขอนามัยและการดูแลสุขภาพจิตผู้ต้องขัง ความปลอดภัยและความมั่นคงในเรือนจำ โปรแกรมการแก้ไขฟื้นฟูและการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงตามแนวทางข้อกำหนดกรุงเทพ การดูแลผู้ต้องขังกลุ่มเฉพาะในเรือนจำ การดูแลหลังพ้นโทษและการลดการกระทำผิดซ้ำ และการรับตัว การจำแนกผู้ต้องขังและการบริหารจัดการด้านเอกสาร