ยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัว

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้ (cookie) เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานและเพิ่มความพึงพอใจต่อการได้รับการเสนอข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตามนโยบายคุกกี้ของเรา

รายละเอียดเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมตรวจเยี่ยมและให้นโยบายกรมราชทัณฑ์ที่เรือนจำกลางคลองเปรม นายชัยเกษมกล่าวว่าได้หารือกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อผลักดันย้ายเรือนจำในพื้นที่ลาดยาวซึ่งปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจออกไปอยู่ที่อื่น เพื่อให้รัฐใช้พื้นที่ได้เป็นประโยชน์มากกว่า แต่มีเงื่อนไขคือ เรือนจำใหม่ต้องได้พื้นที่มากขึ้น ระบบควบคุมที่ทันสมัย ส่วนข้อติดขัดเรื่องผู้ต้องหาต้องไปศาลอยู่ระหว่างประสานแก้ปัญหา ซึ่งตนเตรียมจะหารือกับประธานศาลฎีกาคนใหม่ นอกจากนี้จะเร่งดำเนินโครงการออกหุ้นกู้สร้างเรือนจำเพื่อเพิ่มจำนวนเรือนจำให้ทันจำนวนนักโทษที่จะเพิ่มขึ้น โดยประเมินว่าจะมากถึง 300,000 คน โดยคาดว่าอีก 1-2 เดือนจะรวบรวมข้อมูลขอหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ ส่วนกรณีเสนอผลักดันการยกเลิกถอนใบกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 นั้น จากข้อมูลแล้ว ผู้ต้องขังในคดีกระท่อมที่ต้องโทษจำคุกมีไม่มาก ซึ่งตนหวังว่าถ้าใบกระท่อมไม่ผิดกฎหมายจะเป็นทางเลือกชนิดเบา ช่วยลดปริมาณผู้ที่เสพยาบ้าให้หันไปเสพใบกระท่อม และลดความแออัดของเรือนจำ

ปัจจุบันประเทศไทยมีเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศทั้งหมด 193 แห่ง และมีสถิติผู้ต้องราชทัณฑ์ที่สำรวจ ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2556 รวมทั้งสิ้น 279,854 คน โดยเรือนจำกลางคลองเปรมมียอดผู้ต้องขังประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2556 รวมทั้งสิ้น 5,191 คน จากสถิติที่สำรวจมาจึงพบว่าการเพิ่มขึ้นของผู้ต้องราชทัณฑ์ เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของผู้ต้องขังในคดียาเสพติด ซึ่งในปัจจุบันได้เพิ่มเป็นร้อยละ 62.16 สูงกว่าผู้ต้องขังประเภทอื่นๆ ขณะที่คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์มีเพียงร้อยละ 13.19 และคดีประทุษร้ายต่อชีวิตร้อยละ 8.52 ผู้ต้องขังในคดียาเสพย์ติดส่วนใหญ่จะเป็นผู้ต้องขังในคดีจำหน่าย ครอบครองเพื่อจำหน่าย แนวโน้มการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของผู้ต้องราชทัณฑ์ อันเนื่องมาจากผู้ต้องขังคดียาเสพติดดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อความแออัดของผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากความจุของเรือนจำไม่สามารถขยายได้ทัน

สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย หรือสธท.มีโครงการทำวิจัยศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์สถิติอาชญากรรมและการยุติธรรมแห่งชาติ ซึ่งข้อมูลสถิติกระบวนการยุติธรรมทางอาญา หมายถึง ตัวเลขที่ประมวลได้จากการเก็บข้อมูลอาชญากรรม และการบริหารงานของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม สามารถแบ่งได้สองลักษณะใหญ่  (1) ข้อมูลอาชญากรรม ซึ่งมีประโยชน์หลักในการศึกษาวิจัย หาแนวทางป้องกันปราบปราม และ (2) ข้อมูลกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมีประโยชน์หลักในการบริหารจัดการทรัพยากรปัจจุบัน  สธท. เห็นว่าการดำเนินงานในเรื่องดังกล่าวของส่วนราชการในกระบวนการยุติธรรมไทยยังมีช่องว่างอยู่มาก เนื่องจากเป็นเรื่องที่ต่างคนต่างทำ สธท. จึงเล็งเห็นโอกาสที่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเพื่อเชื่อมต่อให้เกิดการพัฒนาข้อมูลสถิติกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของไทยแบบบูรณาการ ดังนั้นการที่สธท. มีโครงการทำวิจัยศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์สถิติอาชญากรรมและการยุติธรรมแห่งชาตินั้น จะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานด้านกระบวนการยุติธรรมอาญาในแง่การหาแนวทางป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมซึ่งจะนำไปสู่การก่ออาชญากรรมที่น้อยลงและจำนวนผู้ก่ออาชญากรรมที่น้อยลงได้



แหล่งข้อมูล :
http://www.matichon.co.th/
http://breakingnews.nationchannel.com
http://www.correct.go.th/

แก้ไขล่าสุด : วันที่ 9 ตุลาคม 2556

Back